6 นิสัยที่หลายคนทำเป็นกิจวัตร แต่กลับทำลายสุขภาพและทำร้ายไตของเราโดยไม่รู้ตัว เรามาดูกันว่า นิสัยเหล่านั้นทำร้ายไตของเรายังไง
- ดื่มน้ำน้อย
เพราะไตใช้น้ำเป็นตัวนำพาของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย โดยของเสียและสารพิษจะขับออกมาในรูปแบบของปัสสาวะการดื่มน้ำน้อยเกินไป ไตของเราก็จะทำงานไม่ราบรื่น เพราะต้องพยายามกักเก็บน้ำไว้ให้เพียงพอต่อร่างกาย ทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น
สิ่งที่ควรทำ : ใน 1 วันเราควรดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 2 ลิตร หรือ 8-10 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำสะอาดมากเพียงพอ และไม่ควรดื่มน้ำมากจนเกินไปเพราะจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้นเพื่อขับน้ำส่วนเกินออกไป
- ทานอาหารรสจัด
อาหารรสจัดในที่นี้ คืออาหารที่มี รสเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด และมันจัด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไตเท่าๆ กัน เพราะยิ่งทางอาหารรสจัดมากเท่าไหร่ ไตของเราต้องทำงานหนักขึ้นจนทำให้เกิดความเสื่อมของไตเร็วขึ้น
สิ่งที่ควรทำ : ใน 1 วัน ไม่ควรรับประทานเกลือหรือโซเดียมเกินวันละ 1 ช้อนชา, น้ำตาลไม่ควรทานเกินวันละ 6 ช้อนชา ซึ่งนับรวมถึงปริมาณน้ำตาลและเกลือที่พบในอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงน้ำจิ้มปรุงรสต่างๆ ลดปริมาณอาหารทอด ผัด ด้วยน้ำมัน และเนื้อสัตว์ที่อุดมไปด้วยไขมันลงให้มากที่สุด
- ปล่อยตัวจนเป็นโรคอ้วน
ความอ้วนไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้าคุณอ้วนแล้วเสี่ยงเกิดโรค เช่น โรคเบาหวาน, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ โรคเหล่านี้อันตรายต่อสุขภาพ และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต
สิ่งที่ควรทำ : ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที แม้การออกกำลังกายอาจไม่ได้ส่งผลต่อไตโดยตรง แต่ส่งผลต่อสุขภาพของร่างกายซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคต่างๆ ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไตอย่างได้ผล
- ทานไม่เลือก
การทานอาหารไม่เลือก ทานแต่อาหารที่ทำลายสุขภาพ ไตย่อมเป็นอวัยวะแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบเพราะต้องทำหน้าที่กรองสารอาหารส่วนเกินอย่างหนักหน่วง
สิ่งที่ควรทำ : เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหารลดจัด ก็สามารถช่วยดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ แต่สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพไต อาจเลือกทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพไตได้ อย่างเช่น สาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ที่อุดมไปด้วย ฟูคอยแดน (Fucoidan) สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีหน้าที่เข้าไปช่วยสนับสนุนการทำงานและชะลอการเสื่อมของตับและไต แต่ถ้าไม่สามารถรับประทานสาหร่ายสีน้ำตาลในปริมาณที่มากพอที่จะช่วยบำรุงไตได้ ก็สามารถเลือกทานในรูปแบบของ อาหารเสริมแบบเจลที่รับประทานง่ายอย่าง gelplus umi อาหารเสริมในรูปแบบเจลสามารถรับประทานได้ง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วและมีราคาย่อมเยาสบายกระเป๋าให้เราสามารถทานได้ทุกวัน
- รับประทานยาเกินความจำเป็น
หลายคนเมื่อไม่สบายปวดหัวตัวร้อนก็มักจะทานยาแก้ปวดลดไข้ ซึ่งยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไดโคลฟีแนค, นาโปรเซน , ไอบูโพรเฟน ซึ่งเป็นยาบรรเทาปวดที่หากได้รับในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องจะส่งผลต่อการทำงานของไต ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตลดลง
สิ่งที่ควรทำ : รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และลดการทานยาแก้ปวดหรือยาอื่นๆ โดยไม่จำเป็น
- สูบบุหรี่จัด
ผู้ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะไตวายมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า เพราะในบุหรี่ มีสารที่ชื่อว่า นิโคติน (Nicotine) ที่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความดันเลือดและความดันในไต
สิ่งที่ควรทำ : ลด หรือ เลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดี
ไตเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่มีไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาสมบูรณ์ได้หากถูกทำลายหรือเสื่อม เราจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพของไตให้มากๆ เพราะถ้าไตเสื่อมไปแล้ว ก็ยากจะรักษาฟื้นฟู ทำได้เพียงคอยดูแลประคับประคองไม่ให้ไตเสื่อมลงไปมากกว่าเดิมค่ะ
Cr. www.umi-plusgel.com
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.